สระบุรี

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

แม่น้ำป่าสัก เบญจสุทธิคงคา



น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำสายสำคัญ 5 สาย ซึ่งใช้ในการประกอบพิธีมหามงคลต่าง ๆ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา (จากจังหวัดอ่างทอง) แม่น้ำเพชรบุรี (จากจังหวัดเพชรบุรี) แม่น้ำราชบุรี (จากจังหวัดสมุทรสาคร) แม่น้ำบางปะกง (จากจังหวัดนครนายก) และแม่น้ำป่าสัก (จากจังหวัดสระบุรี) อันเป็นที่มาของ “เบญจสุทธิคงคา”
แม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านบริเวณอำเภอเสาไห้ได้ถูกนำมาใช้เป็นน้ำในพิธีถือน้ำ พิพัฒสัตยาอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณริมแม่น้ำป่าสักฝั่งเหนือ ในท้องที่บ้านท่าราบ ตำบลบ้านตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เป็นพื้นที่ที่หาดทราย ผืนใหญ่ราบเรียบลดหลั่นเป็นแนวยาวประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ มีชื่อเรียกตามสภาพพื้นที่เช่นนี้ว่า ท่าราบปรากฏหลักฐานในประวัติศาสตร์ว่า เมื่อครั้งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคเลียบลำน้ำป่าสัก เมื่อเสด็จถึงบ้านท่าราบ ได้ทรงพระดำเนินบนหาดทรายและสรงน้ำ เนื่องจากพื้นน้ำบริเวณนั้นเป็นวัง คือมีน้ำที่นิ่งและใสเย็นกว่าแห่งอื่น เป็นที่พอพระราชหฤทัยมาก นับจากนั้นมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญน้ำจากบริเวณนี้ไปประกอบพิธีทำเป็นน้ำมูรธาภิเษก เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยจุดประกอบพิธีพลีกรรมอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำป่าสักกำหนดไว้ที่ บริเวณกึ่งกลางแม่น้ำป่าสักระหว่างบ้านท่าราบ ตำบลต้นตาล และบ้านไผ่ล้อม ตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี

วัดพระพุทธฉาย


วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ที่ตำบลหนองปลาไหล จังหวัดสระบุรี เข้าทางเดียวกับ อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธฉาย หรือ รอยพระพุทธรูป อยู่บนแผ่นหินซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผา มีการสร้างมณฑปครอบไว้ มีบันไดจากบริเวณวัดด้านล่างขึ้นไปยังมณฑป และต่อไปยังหน้าผาซึ่งอยู่เหนือมณฑปขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนลาย เส้นยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บริเวณเชิงผา ได้แก่ ภาพสัตว์ลายเส้นคล้ายตัวกวาง บริเวณข้างประตูเข้าพระพุทธฉาย พบภาพมือคน และภาพสัญลักษณ์ บริเวณจากถ้ำฤาษีไปทางพระพุทธฉายทางทิศตะวันตก พบภาพเขียนรูปไก่ ภาพพระพุทธรูป และภาพสัญลักษณ์ และบริเวณหน้าผา จปร. พบภาพลายเส้นขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน คล้ายภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ที่เคยถูกค้นพบที่ผาแต้มจังหวัดอุบลราชธานี เขียนด้วยยางไม้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 3,000 ปี โดยเขียนสัญลักษณ์ใช้สื่อความหมายให้เข้าใจในหมู่เดียวกัน และอาจจะเป็นสื่อทางพิธีกรรม และความเชื่อของคนในยุคนั้น และยังพบ รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา เมื่อ พ.ศ.2537 กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมมณฑปบนภูเขาบริเวณวัดพระพุทธฉาย และเมื่อรื้อพื้นซีเมนต์พบรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาอยู่ใต้ทรายปรากฏเห็นเป็น รูปรอยประทับในหิน

สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) สระบุรี



ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพระพุทธบาทพุแค มีพื้นที่ทั้งหมด 4,697 ไร่ ครอบคลุมสองฟากฝั่งถนน หากไปจากสระบุรี ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของอาคารสำนักงานและห้องสมุดพรรณไม้ ทางขวามือมีบริเวณกว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น และมีลำธารไหลผ่าน เป็นสวนหย่อมรวบรวมพันธุ์พืชไม้ต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นไม้พื้นบ้าน ประกอบด้วยพรรณไม้ต่าง ๆ 35 วงศ์ พรรณไม้ในวรรณคดี และพรรณไม้สมุนไพร สวนพฤกษศาสตร์จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2484 เป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย เป็นแหล่งรวบรวมและศึกษาวิจัยพันธุ์พืชรวมทั้งเผยแพร่และให้บริการความรู้ในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับพืช และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย



อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย เดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.แก่งคอย อ.หนองแค และ อ.วิหารแดง มีเนื้อที่ประมาณ 44 ตารางกิโลเมตร หรือ 27,856 ไร่ อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ 2524 ในช่วงประมาณเดือน ตุลาคม - มกราคม เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นเหมาะสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน
อุทยานฯ ประกอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีที่ราบในหุบเขา ยอดที่สูงที่สุดคือ เขาครก 329 เมตร เป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดสามารถมองเห็นภูมิทัศน์ที่สวยงามรอบ ๆ ตัวเมืองสระบุรี และอำเภอใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นใช้เป็นที่ส่องกล้องดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม สภาพพื้นที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ สัตว์ป่าที่พบมีอยู่หลายชนิด เช่น ไก่ฟ้า ไก่ป่า เก้ง ลิง หมูป่า และนกชนิดต่าง ๆ เช่น เขียวคราม กระรางหัวหงอก โพระดก บั้งรอกใหญ่ รวมทั้งผีเสื้อนานาชนิด

สวนรุกขชาติมวกเหล็ก


สวนรุกขชาติมวกเหล็กและน้ำตกมวกเหล็ก อยู่ห่างจากสระบุรีประมาณ 37 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพ ทางเข้าซ้ายมือตรงข้ามกับร้านขายผลิตภัณฑ์ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่ง ประเทศไทย (อ.ส.ค.) สวนรุกขชาตินี้มีเนื้อที่ 375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กับอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีลำธารซึ่งมาจากต้นน้ำในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นเส้นกั้นเขตระหว่างสองจังหวัดดังกล่าว ในลำธารมีแก่งหินลดหลั่น เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ บริเวณสองฟากของลำธารมีสะพานแขวนและพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับต่างๆ
ประวัติความเป็นมา : เดิมเป็นสถานีทดลองปลูกพรรณไม้ของกรมป่าไม้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2497 ได้จัดตั้งเป็นวนอุทยานมวกเหล็กเพื่ออนุรักษ์พรรณไม้ในพื้นที่ป่าดงพญาเย็น ซึ่งเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ในอดีต จะสังเกตุเห็นได้จากสภาพป่าในบริเวณสวนรุกขชาติมวกเหล็กที่ยังคงมีพรรณไม้ ขนาดใหญ่หลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมามีการปรับปรุงส่วนราชการเพื่อความเหมาะสมจึงและเปลี่ยนชื่อเป็นสวนรุกขชาติมวกเหล็ก เพื่อทำหน้าที่ในด้านการอนุรักษ์และปลูกรวบรวมพรรณไม้เพื่อการศึกษาวิจัย และใช้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน

ทุ่งทานตะวัน


ทุ่งทานตะวัน บริเวณเขตติดต่อระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคม-วังม่วง มีการทำไร่ทานตะวันกันมาก รวมทั้งในอีกหลายอำเภอของสระบุรี เช่น อำเภอพระพุทธบาท เฉลิมพระเกียรติ แก่งคอย หนองโดน และมวกเหล็ก แต่ที่อำเภอวังม่วงจะมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด ในช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ผ่านมาบริเวณนี้เป็นอย่างมาก
ทานตะวันเป็นพืชตระกูลถั่ว ประเภทเดียวกับเบญจมาศ คำฝอย ดาวเรือง บัวตอง ซึ่งเป็นพืชล้มลุกชอบแสงแดดจัด ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ต้องการน้ำน้อย และเป็นพืชอายุสั้น นิยมปลูกหลังฤดูฝนประมาณเดือนกันยายนเป็นต้นไป จึงเหมาะแก่การปลูกทดแทนข้าวนาปรังหรือพืชชนิดอื่นๆ ทานตะวันเป็นพืชเศรษฐกิจที่นอกจากจะได้ประโยชน์จากการเก็บเกี่ยวแล้ว ยังนำมาซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะเมื่อดอกทานตะวันบานนับพันนับหมื่นไร่ กลายเป็นท้องทุ่งดอกไม้สีทองอร่ามที่งดงามกว้างไกลสุดสายตา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนคนจากทั่วประเทศให้เดินทางมาเที่ยวชมและ ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เกษตรกรจะทำการเพาะปลูกหรือหว่านเมล็ด พันธุ์ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายนเป็นต้นไป ดอกทานตะวันจะบานและให้เมล็ดเมื่ออายุครบ 55-60 วัน และจะบานสวยงามเต็มที่ประมาณ 15 วัน หลังจากนั้นเกษตรกรจะปล่อยให้เมล็ดทานตะวันแห้งคาต้น แล้วจึงเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต

ไร่องุ่นปภัสรา


ไร่องุ่นปภัสรา มีองุ่นที่ปลูกไว้บนเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ มีอยู่ด้วยกัน 3 พันธุ์ คือ พันธุ์แบล็คไนซ์ เป็นองุ่นพันธุ์สีดำไร้เมล็ด สามารถรับประทานสด คั้นแต่น้ำ หรือนำไปทำเป็นไส้พายองุ่นและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกหลายชนิด พันธุ์ลูพเพลเล็ต องุ่นพันธุ์นี้มีสีเขียว ไร้เมล็ด มีรสหวานจัดเป็นที่นิยมมากมักนำมารับประทานสด พันธุ์ไข่ปลาคาเวียร์ องุ่นพันธุ์นี้เป็นที่นิยมมากและมีราคาแพงมีสีดำ เม็ดเล็กเป็นพวงเกาะกันเหมือนเมล็ดพริกไทย มีรสชาติหอม หวานเป็นพิเศษและมีวิธีการรับประทานที่แตกต่างจากพันธุ์อื่นๆ ที่ต้องทานทั้งพวง
แวะพักชิมกาแฟสดที่จุดชมวิว จุดชมวิวสามารถมองเห็นเนื้อที่ฟาร์มได้ทั้งหมด และสามารถมองเห็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้และมีกาแฟสดไว้บริการสำหรับคอกาแฟ
นอกจากจะเป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อนแล้ว “ ไร่องุ่นปภัสรา ” ยังได้จัดเตรียมสถานที่และกิจกรรมสำหรับการพักผ่อนไว้ด้วย เช่น วอล์คแรลลี่ ขี่จักรยานตามไหล่เขา ขี่ม้าชมทุ่งทานตะวัน เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด เวลา 08.00-18.00 น. ติดต่อสอบถามและสั่งจองได้ที่ คุณบัญญัติ โพธิ์ตุ่น

อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย



อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอมวกเหล็ก และอำเภอวังม่วง มีลำห้วยมวกเหล็กไหลผ่าน จุดเด่นซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคือ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นมาตามแนวลำธาร มีประมาณ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงราว 2-5 เมตร แอ่งน้ำมีบริเวณที่เล่นน้ำกว้าง และร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมล่องแก่งเรือคยักในห้วยมวกเหล็ก ติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ
การเดินทาง : จากตัวเมืองสระบุรี ไปอำเภอมวกเหล็ก ถึงทางแยกถนนสายมวกเหล็ก-หนองย่างเสือ ระยะทาง 41 กิโลเมตร จากทางแยกเข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นระยะทางอีก 12 กิโลเมตร หรือเดินทางโดยรถโดยสาร มีรถสายสระบุรี-แก่งคอย-มวกเหล็ก ผ่านหน้าอุทยานฯ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถ.พหลโยธิน) เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีให้เลี้ยวขวาใช้เส้นทาง สระบุรี-นครราชสีมา (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถ.มิตรภาพ) กม.ที่ 142 ก่อนถึงตลาด อ.ส.ค. ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2224 (มวกเหล็ก-หนองย่างเสือ) ประมาณ 12 กม. ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
กิจกรรม : เล่นน้ำตก พายเรือคยัก พักผ่อนหย่อนใจ ล่องแก่ง เดินป่าศึกษาธรรมชาติ บริเวณ อุทยาน มีบ้านพัก ที่กางเต้นท์ ห้องอาบน้ำ มีร้านอาหารบริการ ห่วงยางให้เช่าเล่นน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อล่องแก่งเรือยาง เรือคยัก และรถ ATV ได้ด้วย

อุโมงค์ต้นไม้


บนเส้นทางมวกเหล็ก-วังม่วง เส้นทางสาย 2089 มีอุโมงค์ต้นไม้ เกิดจากต้นกระถินใหญ่สองข้างถนนโน้มกิ่งเข้าหากัน ทำให้ถนนร่มครึ้มเป็นระยะทางยาวดูคล้ายอุโมงค์ และให้ความร่มรื่นสวยงามมีความยาวประมาณ 200 เมตร นักท่องเที่ยวมักจอดรถแวะถ่ายรูปเป็นประจำ ถัดไปเล็กน้อยยังมีเนินพิศวง ซึ่งหากจอดรถเข้าเกียร์ว่าง จะเกิดภาพลวงตามองเห็นรถเคลื่อนที่จากที่ต่ำไปยังที่สูง นอกจากนี้ตามเส้นทางสายมวกเหล็ก-หนองย่างเสือ (ทางหลวงหมายเลข 2224) จะมีลำธารไหลเลียบถนนไปตลอดเส้นทางและมีรีสอร์ทของเอกชนหลายแห่งตั้งเรียง รายอยู่ริม ธารน้ำตก

ไร่กุสุมา


ไร่กุสุมา เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีลักษณะเป็นรีสอร์ทแบบบ้านไร่ริมธาร ที่มีชื่อเสียงมานาน ตั้งอยู่ในตำบลมวกเหล็ก จากจังหวัดสระบุรีไปตามถนนพหลโยธินแล้วแยกเข้าถนนมิตรภาพถึงเตอำเภอมวกเหล็ก เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอมวกเหล็ก ผ่านน้ำตกมวกเหล็กเข้าไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะถึงไร่กุสุมาอยู่ทางด้านขวามือ มีป้ายบอกไว้อย่างชัดเจน ไร่กุสุมานี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 137 กิโลเมตร ภายในไร่กุสุมามีที่พักแบบต่าง ๆ ไว้บริกา